ราเยวัช ลั่นพาไทยซิวแชมป์คิงส์คัพ ส่วนกุนซือเบลารุส เผยไทยมีจุดอ่อน
มิโลวาน ราเยวัช กุนซือทีมชาติไทย หวังเรียกความฟิตนักเตะกลับมาให้พร้อมก่อนเจอเบลารุสนัดชิงคิงส์คัพ 16 ก.ค.นี้ และหวังพาทีมคว้าแชมป์ให้ได้ ส่วนกุนซือเบลารุส เผยไทยมีจุดอ่อน และหวังจะล้มให้ได้ใน 90 นาทีเพื่อนำถ้วยแชมป์กลับบ้าน
งานแถลงข่าวความพร้อมศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 45 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทย พบ เบลารุส ซึ่งจะลงฟาดแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ค.นี้ โดยงานแถลงข่าวมีขึ้นเมื่อช่วงสายวันที่ 15 ก.ค. เวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมอัลมิรอซ ด้านทีมชาติไทย ส่ง มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ช พร้อม มงคล ทศไกร ปีกตัวเก่ง ขณะที่เบลารุส มี อิกอร์ คุสเซนโก้ กุนซือใหญ่ มาพร้อมกับ พาเวล ซาวิตส์กี กัปตันทีม
โดย มิโลวาน ราเยวัช กุนซือ ทีมชาติไทย กล่าวว่า "จากเกมเมื่อวานนี้ที่เอาชนะเกาหลีเหนือมา ไม่ใช่เกมที่ง่าย เกาหลีเหนือเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของทีมออกมาให้ทุกคนเห็น เราได้ดูเกมบูร์กินาฟาโซ กับ เบลารุสเป็นที่เรียบร้อยแล้วต้องยอมรับว่าทั้งสองทีมต่างมีความแข็งแกร่งและสุดท้ายต้องตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ ผมเคยทำงานในแอฟริกามาก่อน ผมคิดว่าบูร์กินาฟาโซทำผลงานได้อย่างเยี่ยมและแฟนบอลของพวกเขาน่าจะภูมิใจในตัวทีมบูร์กินาฟาโซ ส่วนเบลารุส เราขอยินดีกับชัยชนะของพวกเขา ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งชนะบัลแกเรียมาก่อน เราก็ได้ดู และในทีมชุดนี้ก็มีผู้เล่นดาวรุ่งมากมายและมีอนาคตสดใส ผมเชื่อว่าพวกเขาจะมีอนาคตที่สดใส"
"หลังจากนี้เราจะพยายามเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดสำหรับเกมที่จะเจอกับ เบลารุส เกมนี้เราจะเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน การที่สนามต้องถูกใช้ติดๆ กัน สภาพนามอาจจะไม่ดี ทำให้เราต้องใช้พลังมากขึ้น และ วิ่งมากขึ้น หลังจากนี้การฟื้นฟูร่างกายคือสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งผมเชื่อว่าทั้งสี่ทีมต่างโฟกัสเรื่องนี้ และหากเราทำได้ดี คุณภาพของเกมก็จะดียิ่งขึ้น และผมหวังว่าเราจะเป็นผู้ชนะและป้องกันแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพได้"
ด้าน มงคล ทศไกร กล่าวว่า "เราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อช่วงเช้าเราก็ฟื้นฟูร่างกายกัน ตอนนี้เราก็มีความพร้อมมากขึ้น ความสุขของแฟนบอลชาวไทยคือเห็นทีมคว้าชัยชนะและคว้าแชมป์ ผมจะทำเพื่อแฟนบอลชาวไทยให้ได้ และทำให้ดีที่สุด และส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่าเราจะทำได้ดี"
ส่วนทาง อิกอร์ คัสเซนโก้ กุนซือใหญ่เบลารุส กล่าวว่า "เราพอใจกับผลงานเมื่อวานที่ชนะบูร์กินาฟาโซและผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศไทย ซึ่งเราก็มีการเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนเจอทีมชาติไทย เมื่อวานนี้เราได้ดูไทยเล่นแล้วถือว่าเป็นทีมที่ดีมาก มีนักเตะที่ดี โดยเฉพาะผู้รักษาประตูทำได้ยอดเยี่ยมมาก แต่อย่างไรก็ตามตนคิดว่าทีมชาติไทยยังคงมีจุดอ่อนในเกมรับ แม้เมื่อวานจะไม่เสียประตูเนื่องจากเกาหลีเหนือนั้นไม่เฉียบคม แต่เราคิดว่ามีวิธีจะยิงทีมชาติไทยได้
แค่เราเองก็ไม่ประมาทและจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งเกมนี้เราคงจะไม่เปิดเกมบุกแบบเต็มสูบ คงจะเล่นไปตามเกมและรอจังหวะ ซึ่งถ้ามีโอกาสเราก็ต้องการที่อยากจะเป็นผู้ชนะ และต้องการจะชนะใน 90 นาทีด้วยถ้าทำได้ ส่วนเรื่องการยิงจุดโทษที่เมื่อวานเราชนะบูร์กาน่าฯ มานั้น ทีมเรายิงได้ดีมากแต่บอกเลยว่าเราไม่ได้ซ้อมยิงจุดโทษมาโดยให้นักเตะฟรีสไตล์เลยในการดวลจุดโทษเมื่อวานนี้"
สำหรับทีมชาติไทย จะลงแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 45 ในรอบชิงชนะเลิศ พบกับทีมชาติ เบลารุส วันที่ 16 กรกฎาคม 2560 เวลา 19.30 น.
ส่วนรอบชิงอันดับที่ 3 ทีมชาติ บูร์กินาฟาโซ จะพบกับทีมชาติ เกาหลีเหนือ เวลา 16.30 น.
งานแถลงข่าวความพร้อมศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 45 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมชาติไทย พบ เบลารุส ซึ่งจะลงฟาดแข้งกันในวันอาทิตย์ที่ 16 ก.ค.นี้ โดยงานแถลงข่าวมีขึ้นเมื่อช่วงสายวันที่ 15 ก.ค. เวลา 11.30 น. ที่ผ่านมา ที่โรงแรมอัลมิรอซ ด้านทีมชาติไทย ส่ง มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ช พร้อม มงคล ทศไกร ปีกตัวเก่ง ขณะที่เบลารุส มี อิกอร์ คุสเซนโก้ กุนซือใหญ่ มาพร้อมกับ พาเวล ซาวิตส์กี กัปตันทีม
โดย มิโลวาน ราเยวัช กุนซือ ทีมชาติไทย กล่าวว่า "จากเกมเมื่อวานนี้ที่เอาชนะเกาหลีเหนือมา ไม่ใช่เกมที่ง่าย เกาหลีเหนือเป็นทีมที่แข็งแกร่ง แต่เราก็แสดงให้เห็นถึงคุณภาพของทีมออกมาให้ทุกคนเห็น เราได้ดูเกมบูร์กินาฟาโซ กับ เบลารุสเป็นที่เรียบร้อยแล้วต้องยอมรับว่าทั้งสองทีมต่างมีความแข็งแกร่งและสุดท้ายต้องตัดสินกันที่การดวลจุดโทษ ผมเคยทำงานในแอฟริกามาก่อน ผมคิดว่าบูร์กินาฟาโซทำผลงานได้อย่างเยี่ยมและแฟนบอลของพวกเขาน่าจะภูมิใจในตัวทีมบูร์กินาฟาโซ ส่วนเบลารุส เราขอยินดีกับชัยชนะของพวกเขา ก่อนหน้านี้พวกเขาก็เพิ่งชนะบัลแกเรียมาก่อน เราก็ได้ดู และในทีมชุดนี้ก็มีผู้เล่นดาวรุ่งมากมายและมีอนาคตสดใส ผมเชื่อว่าพวกเขาจะมีอนาคตที่สดใส"
"หลังจากนี้เราจะพยายามเตรียมทีมให้พร้อมที่สุดสำหรับเกมที่จะเจอกับ เบลารุส เกมนี้เราจะเล่นที่ราชมังคลากีฬาสถาน การที่สนามต้องถูกใช้ติดๆ กัน สภาพนามอาจจะไม่ดี ทำให้เราต้องใช้พลังมากขึ้น และ วิ่งมากขึ้น หลังจากนี้การฟื้นฟูร่างกายคือสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งผมเชื่อว่าทั้งสี่ทีมต่างโฟกัสเรื่องนี้ และหากเราทำได้ดี คุณภาพของเกมก็จะดียิ่งขึ้น และผมหวังว่าเราจะเป็นผู้ชนะและป้องกันแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพได้"
ด้าน มงคล ทศไกร กล่าวว่า "เราต้องพักผ่อนให้เพียงพอ เมื่อช่วงเช้าเราก็ฟื้นฟูร่างกายกัน ตอนนี้เราก็มีความพร้อมมากขึ้น ความสุขของแฟนบอลชาวไทยคือเห็นทีมคว้าชัยชนะและคว้าแชมป์ ผมจะทำเพื่อแฟนบอลชาวไทยให้ได้ และทำให้ดีที่สุด และส่วนตัวผมเชื่อมั่นว่าเราจะทำได้ดี"
ส่วนทาง อิกอร์ คัสเซนโก้ กุนซือใหญ่เบลารุส กล่าวว่า "เราพอใจกับผลงานเมื่อวานที่ชนะบูร์กินาฟาโซและผ่านเข้ามาชิงชนะเลิศไทย ซึ่งเราก็มีการเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนเจอทีมชาติไทย เมื่อวานนี้เราได้ดูไทยเล่นแล้วถือว่าเป็นทีมที่ดีมาก มีนักเตะที่ดี โดยเฉพาะผู้รักษาประตูทำได้ยอดเยี่ยมมาก แต่อย่างไรก็ตามตนคิดว่าทีมชาติไทยยังคงมีจุดอ่อนในเกมรับ แม้เมื่อวานจะไม่เสียประตูเนื่องจากเกาหลีเหนือนั้นไม่เฉียบคม แต่เราคิดว่ามีวิธีจะยิงทีมชาติไทยได้
แค่เราเองก็ไม่ประมาทและจะทำผลงานออกมาให้ดีที่สุด ซึ่งเกมนี้เราคงจะไม่เปิดเกมบุกแบบเต็มสูบ คงจะเล่นไปตามเกมและรอจังหวะ ซึ่งถ้ามีโอกาสเราก็ต้องการที่อยากจะเป็นผู้ชนะ และต้องการจะชนะใน 90 นาทีด้วยถ้าทำได้ ส่วนเรื่องการยิงจุดโทษที่เมื่อวานเราชนะบูร์กาน่าฯ มานั้น ทีมเรายิงได้ดีมากแต่บอกเลยว่าเราไม่ได้ซ้อมยิงจุดโทษมาโดยให้นักเตะฟรีสไตล์เลยในการดวลจุดโทษเมื่อวานนี้"
สำหรับทีมชาติไทย จะลงแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 45 ในรอบชิงชนะเลิศ พบกับทีมชาติ เบลารุส วันที่ 16 กรกฎาคม 2560 เวลา 19.30 น.
ส่วนรอบชิงอันดับที่ 3 ทีมชาติ บูร์กินาฟาโซ จะพบกับทีมชาติ เกาหลีเหนือ เวลา 16.30 น.