"มาดามแป้ง" อาจไฟเขียวให้ "ซิโก้" คุมท่าเรือต่อ-จ่อยกเครื่องใหม่สร้างความยิ่งใหญ่
แม้ว่าดูเหมือนจะทำผลงานได้ไม่หวือหวาเท่าไหร่กับ 5 นัดที่เข้าไปคุมทีมการท่าเรือ ที่ล่าสุดทีมดังคลองเตย รั้งอันดับ 9 จากผลงาน เตะ 23 นัดมี 32 แต้ม โดย "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เริ่มงานนัดแรกในเกมนัดที่ 19 เมื่อ 25 มิ.ย. 60 ด้วยการเปิดบ้าน แพ้ แบงค็อก 0-3 หลังจากนั้นอีก 4 เกม ชนะ 1 เสมอ 1 แพ้ 2 รวมแล้ว อดีตกุนซือทีมชาติไทย รายนี้ คุมการท่าเรือ มา 5 นัด เก็บได้ 4 แต้ม จากผลงาน แพ้ แบงค็อก 0-3 (ห) , เสมอ ราชนาวี 2-2 (ย), ชนะ ไทยฮอนด้า 3-1 (ห), แพ้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-1 (ย), แพ้อุบล ยูเอ็มที 1-2 (ย)
แต่ล่าสุดมีรายงานข่าวมาจากแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ออกมาชนิดที่เป็นข่าวดีสุดๆ ของสาวก "สิงห์เจ้าท่า" ก็คือปีหน้า "นางฟ้าลูกหนังไทย" อย่าง "มาดามแป้ง" นวลพรรณ ล่ำซำ ประธานสโมสร ในฐานะกระเป๋าเงินของสโมสร อาจจะไว้วางใจให้ "ซิโก้" ได้คุมทัพต่อไป โดยเรื่องนี้คนใกล้ชิด "ซิโก้" ออกมาเปิดเผยว่า ข่าวดังกล่าวเป็นเรื่องจริง แต่ทั้งนี้ต้องรอดูผลงานการคุมทีมของ "ซิโก้" กับทีมในปีนี้ก่อน จากนั้นจบฤดูกาลจะคุยกันถึงกันถึงแนวทางทำทีมในปีหน้าอีกครั้งว่าจะตัดสินใจอย่างไร โดยหากได้ทำต่อ "ซิโก้" ก็พร้อมจะยกระบบทีมใหม่หมดเพื่อให้เป็นทีมที่มีคุณภาพ และทำให้ทีมระดับตำนานทีมนี้ของเมืองไทยกลับคืนมาสู่ความยิ่งใหญ่ในสมรภูมิลูกหนังไทยให้ได้อีกครั้งเหมือนเช่นวันวานให้ได้
14-22 ก.ค.ชุบตัวติวเข้มที่กิเลน วัลเล่ย์
สำหรับทีมการท่าเรือนี้ ช่วงที่ไทยลีกพักเบรกเพื่อหลีกทางให้กับทีมชาติไทยทำศึกคิงส์คัพ รวมไปถึงยู-23 ทำศึกชิงแชมป์เอเชีย รอบคัดเลือก กลุ่ม เอช ที่ไทยเราเป็นเจ้าภาพ ก่อนจะกลับมาเตะอีกครั้ง 29 ก.ค. 60 เป็นต้นไปนั้น ระหว่าง 14-22 ก.ค. 60 นี้ "ซิโก้" จะนำลูกทีมเดินทางไปเก็บตัวฝึกซ้อมเป็นระยะเวลายาวถึง 9 วันเต็ม ที่กิเลน วัลเล่ย์ จ.นครราชสีมา
โดย "ซิโก้" กล่าวว่า สาเหตุที่เลือกที่นี่เพราะเป็นด้วยบรรยากาศที่ไม่วุ่นวาย และเป็นสถานที่ซึ่งมีความพร้อมและทุกคนจะได้อยู่ร่วมกันเป็นเวลาถึง 9 วันเต็มๆ ที่ผ่านมานั้นผมเข้าไปคุมทีมซ้อมได้วันเดียวก็มีคิวลงเตะในวันรุ่งขึ้นทันที ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าวนั้นคิวเตะถี่ยิบทั้งกลางและสุดสัปดาห์ผมยอมรับว่าตัวเองยังใหม่กับทีมการท่าเรือ และถือว่าเวลาที่เข้าไปคุมทีม 5 นัดยังไม่สามารถทำอะไรกับทีมได้มาก
แต่ในช่วงที่ไปเก็บตัวกันที่กิเลน วัลเล่ย์ นี้ ผมมั่นใจว่าการที่ทุกคนในทีมจะได้ไปใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันถึง 9 วันนั้นจะทำให้เราสามารถเรียนรู้ซึ่งกัน และกันได้มากขึ้นระหว่างผม และน้องๆ ในทีม และจะได้นำจุดที่ยังเป็นข้อบกพร่องของเราไปแก้ไขในการซ้อมที่เข้มข้น
เราต้องทำงานกันหนักเพื่อตอบแทนผู้บริหารสโมสร ซึ่งนักเตะเองก็รู้ดีว่าสโมสรให้อะไรกับพวกเขาอะไรที่พวกเขาต้องตอบแทนกลับสู่สโมสร สำหรับผมเป้าหมายก็อย่างที่บอกไปตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับงานคุมทีมแล้วว่าจะพยายามพาทีมทำผลงานในปีนี้ให้ออกมาดีที่สุด โดยผมมั่นใจว่าปีนี้การท่าเรือจะต้องจบฤดูกาลด้วยอันดับเลขตัวเดียวไม่ต่ำกว่าอันดับ 8 ได้แน่นอน