ช้างศึก อุ่นเครื่อง เยือนเมียนมา 5 ต.ค. และ เปิดบ้านรับเคนยา 8 ต.ค.
ทีมชาติไทย ตกลงแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตรกับ เมียนมา และ เคนยา ภายใต้ปฎิทินฟีฟ่าเดย์
ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ตกลงที่จะแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์ กับ ทีมชาติเมียนมา ในวันที่ 5 ตุลาคม 2560 ณ สนามมัณฑะลาร์ ธิริ, เมืองมัณฑะลาร์, ประเทศเมียนมา ก่อนเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเคนยา ในวันที่ 8 ตุลาคม 2560
โดยครั้งล่าสุดที่ ช้างศึก พบกับ เมียนมา ต้องย้อนกลับไปเมื่อปี 2016 ในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ รอบรองชนะเลิศ ทีมชาติไทย เอาชนะ ทีมชาติเมียนมา 4-0 ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน พร้อมกับผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศ ด้วยผลประตูรวม 6-0 และคว้าแชมป์มาครองได้ในที่สุด ส่วน ไทย กับ เคนยา เคยพบกันมาแล้วในการแข่งขัน คิงส์คัพ ปี 1990 โดยเป็น ช้างศึก ที่เฉือนชนะ เคนยา 2-1
ในขณะที่ คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ โฆษกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงโปรแกรมกระชับมิตรช่วงสุดท้ายในปีนี้ของ ทัพช้างศึกชุดใหญ่ ว่า “เกมอุ่นเครื่องในเดือนตุลาคมนี้ จะเป็นช่วงสุดท้ายของเราในปี 2017 สำหรับทีมชุดใหญ่ เนื่องจากทาง ไทยลีก มีความจำเป็นต้องใช้ช่วงฟีฟ่าเดย์ในเดือนพฤศจิกายน มาจัดการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก และฟุตบอลถ้วยรายการต่างๆ ให้ครบตามกำหนด”
“ส่วนในเรื่องการวางแผนทีมต่างๆ ต้องเรียนให้ทราบว่า สาเหตุที่บางครั้งไม่สามารถบอกชื่อทีมได้ก่อน เพราะเป็นไปตามข้อตกลงของทั้งสองฝ่าย ยกตัวอย่างเช่น ทีมชาติบางชาติมีผู้ถือลิขสิทธิ์และประสงค์จะให้ประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าก่อนแข่งไม่นานจนเกินไป และให้ข่าวพร้อมกัน เราจึงต้องเคารพในข้อตกลงเหล่านี้ในบางกรณี เช่นเดียวกับรายการ คิงส์คัพ ที่ผ่านมา เราได้ทีมเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว แต่ยังต้องรอการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการจากผู้ถือลิขสิทธิ์การแข่งขัน”
คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ กล่าวต่อว่า “สำหรับปีหน้า (2018) ทั้งทีมชาติชุดใหญ่และชุดอื่นๆ ของเรา ได้เริ่มเจรจาเรื่องแมตช์กระชับมิตรไปพอสมควรแล้ว โดยเฉพาะช่วงมีนาคมและหลัง เอเชียน เกมส์ เป็นหลัก”
สำหรับเกมอุ่นเครื่องทั้งสองนัดของ ช้างศึก ในเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ ได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) และ สหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) พร้อมยกให้เป็น International Friendly “A” Match ซึ่งจะมีผลต่อคะแนนฟีฟ่าแรงกิ้ง
โดยอันดับฟีฟ่าแรงกิ้งของทีมชาติไทยในปัจจุบัน ล่าสุด ช้างศึก อยู่ที่อันดับ 130 ของโลก และยังคงอยู่ในอันดับ 21 ของเอเชีย มีคะแนนสะสม 243 คะแนน
ในขณะที่ ชาติร่วมอาเซียนอย่าง เมียนมา อยู่ที่อันดับ 157 ของโลก และอันดับ 30 ของเอเชีย มีคะแนนสะสม 157 คะแนน ส่วน เคนยา อยู่ที่อันดับ 82 ของโลก และล่าสุด ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 18 ของทวีปแอฟริกา มีคะแนนสะสม 412 คะแนน
“สำหรับ ทีมชาติเคนยา ถือเป็นทีมที่มีแรงกิ้งอยู่ในช่วงกลุ่มที่เหมาะสม และหากเราสามารถเอาชนะทีมชาติที่มีแรงกิ้งช่วงนี้ได้บ่อยขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อทีมชาติไทย เนื่องจากการลงเล่นกับทีมที่มีแรงกิ้งสูงๆ แต่ไม่สามารถเก็บชัยชนะได้ ก็จะทำให้เสียโอกาสในการเก็บคะแนนสะสมไปด้วย แต่แน่นอนว่า นอกจากเรื่องคะแนน ทีมควรได้รับประสบการณ์และประโยชน์ด้วยเช่นกัน ซึ่งเราต้องทำให้สมดุลให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้”
"โดยโค้ช (มิโลวาน ราเยวัช) ต้องการให้เราได้มีแมตช์ในระดับสูง กลาง สลับกันบ้างเพื่อได้วางแทคติค และแก้ไขทั้งเกมส์รุก รับในเกมส์ที่มีความสูสีบ้าง จากที่ผ่านมาในฟุตบอลโลกและคิงส์คัพ เราต้องวางเกมในฐานะทีมรองอยู่หลายครั้ง” คุณพาทิศ ศุภะพงษ์ กล่าว
“ส่วนแมตช์กับ ทีมชาติเมียนมา (5 ตุลาคม) น่าจะเป็นเกมเยือมที่ไม่ต้องเดินทางยาวนานจนเกินไป เพราะเราจะต้องกลับมาเตรียมเปิดบ้านพบกับ เคนยา อีกในวันที่ 8 และนักฟุตบอลจะกลับสู่สโมสรในวันที่ 9 ทันที เพื่อเตรียมแข่งลีกคัพและไทยลีกต่อไป” รองเลขาธิการฝ่ายต่างประเทศ และ โฆษกสมาคมฯ กล่าวปิดท้าย
สำหรับทีมชาติไทยชุดใหญ่ จะออกไปเยือน ทีมชาติเมียนมา ในการแข่งขันฟุตบอลนัดกระชับมิตร ภายใต้ปฏิทินฟีฟ่าเดย์ ในวันที่ 5 ตุลาคม 2560 ณ สนามมัณฑะลาร์ ธิริ, เมืองมัณฑะลาร์, ประเทศเมียนมา ก่อนที่จะกลับมาเปิดบ้านพบกับ ทีมชาติเคนยา ในวันที่ 8 ตุลาคม 2560 เพื่อลุ้นเก็บแต้มฟีฟ่าแรงกิ้งเป็นแมตช์สุดท้ายของปี 2017 ต่อไป