หลุดโผ? วินนี่โพสต์ลาเมืองไทย
วินฟรีด เชเฟอร์ โค้ชมากประสบการณ์ชาวเยอรมัน โพสต์ข้อความร่ายย่าวอำลาประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมขอบคุณสมาคมฟุตบอล และทุกสโมสรที่ได้ไปเยี่ยมชม
อดีตกุนซือทีมชาติไทยวัย 67 ปี เดินทางมาไปที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพื่อเข้าพบ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง หลังเจ้าตัวมีความสนใจที่กลับมาทำทีมช้างศึกอีกครั้ง เมื่อวันที่ 3 เมษายน ที่ผ่านมา นับตั้งแต่ว่างงานจากทีมชาติจาไมก้า โดยล่าสุดได้โพสต์ข้อความลงบนแฟนเพจเฟซบุ๊ค อำลาเมืองไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
“พรุ่งนี้ผมจะบินไปอีกประเทศนึงแล้ว ผมก็เลยอยากกล่าวขอบคุณเพื่อนๆ ทั้งเก่าและใหม่ ก่อนที่ผมจะวุ่นวายกับการเดินทาง ตอนแรกผมตั้งใจจะมาพักกรุงเทพฯแค่ 10 วันเพื่อมาพบเพื่อน: คุณนิกร (อดีตนายทหาร พระ นักปราชญ์ผู้มีหัวใจอ่อนโยน และล่ามไทย-เยอรมันที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ), คุณสมเกียรติ (เจ้าภาพชั้นเลิศและประธานสโมสรกระบี่ FC); ปวิน จากบางกอกกล๊าส (แฟนฟุตบอลพันธุ์แท้และคนดีมากๆ), เพื่อนผมจากบางกอกกล๊าสอีกคน คุณศุภสิน ผู้ที่ไม่เพียงมีปรัชญาฟุตบอลเดียวกันกับผม ซึ่งเน้นการทำงานหนักและการวางแผนระยะยาว แต่ยังได้แนะนำให้ผมได้รู้จักกับมาดามแป้ง ผู้ที่ทำงานอย่างหนักหน่วงให้กับฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ชีวิตเธอไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบเลย สู้ๆ นะครับนักเตะหญิง ขอให้คว้าบอลโลกมาให้ได้”
“ผมได้รับคำเชิญทุกวันที่เมืองไทย ผมตื่นเต้นและรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้พบปะผู้คนใหม่ๆ และเดินทางไปหลายที่ในประเทศไทย นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้มาพักผ่อนที่นี่ ไม่ได้มาทำงาน มันเป็นประสบการณ์ใหม่ที่ดีมาก ผมได้สร้างมิตรภาพใหม่ๆ คุณสุวิท พิพัฒน์วิไลกุล จากอุดรธานี เป็นเจ้าภาพที่ดีมากและให้ความรู้ผมมากเกี่ยวกับภาคอีสาน คุณณัฐพล ทีปสุวรรณ ไอเดียและความทุ่มเทของเขาด้านเยาวชนเป็นสิ่งที่ผมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ความฝันของเขาที่จะก่อตั้งฟุตบอลอะคาเดมี่สร้างแรงบันดาลใจให้ผมมาก และแน่นอน เพื่อนๆไทยฮอนด้าที่น่ารัก คำขวัญของสโมสร "Club of Tomorrow" แสดงให้เห็นถึงสปิริตของความสำเร็จได้เป็นอย่างดี ทำงานหนักและอย่างตรงไปตรงมา สร้างรากฐานที่ดีและวางแผนระยะยาว นั่นคือทิศทางที่ควรไป ขอบคุณเพื่อนๆทุกคนสำหรับการต้อนรับที่ดีครับ”
“ผมเซอร์ไพรส์ตอนที่อยู่ดีๆก็ได้รับอีเมล์จากสมาคมฟุตบอลไทย แน่นอนผมตอบรับคำเชิญให้ไปพบท่านนายกสมาคม หลังจากที่คุณเฮงได้ขึ้นมาเป็นประธานเทคนิค ผมได้แสดงความยินดีกับเขาและบอกเขาว่าผมจะช่วยเท่าที่ผมจะช่วยได้ โดยเฉพาะการก่อตั้งการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศไทยและเยอรมนี ซึ่งเป็นโครงการที่ผมเสนอไปเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผมได้พบกับคุณสมยศ ผมมั่นใจว่าเขาต้องการทุ่มเทให้กับฟุตบอลไทย เขามีทั้งแรงพลังและความกระตือรือร้น ถ้าผมได้รับเชิญไปที่ไหน ผมไม่เคยไปมือเปล่า ผมจึงได้เสนอคอนเซ็ปต์พัฒนาฟุตบอล ซึ่งมีตั้งแต่ขั้นตอนเร่งด่วน ไปจนถึงการเตรียมตัวสำหรับ Asian Cup 2019 และ ฟุตบอลโลกปี 2022 รอบคัดเลือก, การร่วมมือกันระหว่างบุนเดสลีกา/สมาคมฟุตบอลเยอรมันและสมาคมฟุตบอลไทย, โครงสร้างและแผนการที่เริ่มตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงระดับทีมชาติ, การศึกษาของโค้ชไทยระดับเยาวชนที่มีความกระตือรือร้นสูง ผมหวังว่ามันจะเป็นแรงบันดาลใจ”
“ผมมาอยู่ที่นี่ได้สามอาทิตย์และผมก็สนุกมาก สิ่งที่ผมชื่นใจที่สุดคือแรงสนับสนุนจากพวกคุณ มีคนเข้ามาถามคำถามผมหลายคน และนั่นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมเริ่มเขียนเกี่ยวกับประสบการณ์ด้านฟุตบอลของผม ซึ่งผมไม่เคยนึกว่าผมจะสนุกกับมันขนาดนี้ ผมคิดว่าผมจะเขียนต่อไปเรื่อยๆ ถ้ามีสำนักพิมพ์ไหนอ่านอยู่ ส่งข้อความมาหาผมได้เลย
สวัสดีครับ”