เจ้าภาพ เปลี่ยนสังเวียนนัดชิงหวด ชาห์ อลัม “โย่ง” เชื่อทีมรับมือไหว “มาดามเดียร์” กำชับแข้งไทยรับมือความกดดันให้ได้
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็น วันที่ 27 ส.ค. 60 ทีมชาติไทย ได้เดินทางมาฝึกซ้อมยัง สนาม ปาดัง โบลา เซปัค มินเดฟ โดย “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทย ได้ให้นักเตะลงฝึกซ้อมเบาๆ โดยนักเตะ 11 ตัวจริงที่ลงสนาม พบ เมียนมา รอบรองชนะเลิศ ได้แยกออกมาซ้อมรีโคเวอรี่ร่างกาย ส่วนนักเตะที่เหลือได้ลงฝึกซ้อมเบาๆ ใช้เวลาราว 1 ชั่วโมง จึงเสร็จสิ้น
โดยล่าสุดทางทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ได้รับการแจ้งจากฝ่ายจัดการแข่งขันว่าได้มีการเปลี่ยนแปลงสนามแข่งขันที่ใช้ในเกมนัดชิงชนะเลิศ จาก สนามบูกิต จาลิล ย้ายมาแข่งขันที่ สนาม ชาห์ อลัม สเตเดี้ยม ด้วยเหตุผลว่า สนาม บูกิต จาริล ไม่อยู่ในสภาพที่พร้อมจะลงแข่งและมีการปิดปรับปรุง โดยก่อนหน้านี้ ทีมชาติไทย เคยลงแข่งขัน ที่ สนาม ชาห์ อลัม สเตเดี้ยม มาแล้ว 1 นัด ในการแข่งขันรอบแรกของกลุ่ม บี เกมเสมอ อินโดนีเซีย 1-1
โดย “โค้ชโย่ง” วรวุธ ศรีมะฆะ กุนซือใหญ่ของทีมชาติไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า “สำหรับเรื่องที่เจ้าภาพจะมีการเปลี่ยนสนามแข่งขันมาใช้ ชาห์ อลัม ก็ไม่เป็นไร เพราะว่ามาที่นี้เขาเปลี่ยนบ่อยอยู่แล้ว ทั้งเวลาแข่งขัน และก็โปรแกรม เรามีหน้าที่ต้องเล่น ถึงแม้ว่านัดแรกที่เราเล่นที่ ชาห์ อลัม จะเสมอกับ อินโดนีเซีย แต่เราก็ไม่ได้แพ้"
"การเจอกับ มาเลเซีย พวกเขาเป็นทีมที่น่ากลัว รวมถึงมีการเตรียมทีมมาอย่างต่อเนื่อง ส่วนสถิติที่ผ่านมาแม้ว่าเราจะเอาชนะ มาเลเซีย ชุดนี้มาได้ตลอด 3 นัดที่เจอกัน เรายังไม่ได้เจอผู้เล่นที่ดีที่สุด ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้พวกเขามีนักเตะใหม่เพิ่มเข้ามาอีก 3 - 4 คน”
“ส่วนเรื่องกรรมการตัดไปเลยดีกว่า ถามว่ากังวลมั้ยมันก็กังวล แต่การแข่งขันฟุตบอลเดี๋ยวนี้มันเป็นสากล ถ้าไม่จะแจ้งจริงเขาก็ทำอะไรเราลำบาก สำหรับความกดดันเรื่องกองเชียร์นักเตะอาจจะตื่นเต้นบ้าง แต่เชื่อว่าทุกคนจะรับมือไหว รวมถึงจะเป็นประสบการณ์ให้กับพวกเขาในการเจอกับกองเชียร์เรือนแสนของทีมเจ้าภาพด้วย"
ด้าน “คุณเดียร์” วทันยา วงษ์โอภาสี ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้เผยว่า “สภาพจิตใจน้องๆนักเตะทุกคนตอนนี้มีความมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะพาทีมประสบความสำเร็จ รวมถึงการที่เราได้พักอีก 2 วัน ก็น่าจะช่วยให้สภาพร่างกายของนักเตะฟิตกลับมาสมบูรณ์อีกครั้ง อาจจะมีนักเตะบางคนที่ยังมีอาการบาดเจ็บรบกวนเล็กน้อย ซึ่งช่วงเช้าที่ผ่านมาก็ได้ให้นักเตะเข้ารับการตรวจรักษาจากทางทีมแพทย์ของ กกท. แล้ว ณ จุดนี้ก็ต้องขอบขอบคุณทาง กกท. ด้วยที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับนักกีฬาของเรา"
"โดยการเจอกับ มาเลเซีย ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ตนยังเชื่อมั่นในศักยภาพของนักเตะทุกคนถ้าวัดกันในสนามแข่งขันเราเหนือกว่าทีมคู่แข่งแน่นอน แต่ทั้งนี้เราต้องรับมือกับความกดดันจากแฟนบอล สภาพแวดล้อมต่างๆ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ที่ อินโดนีเซีย ต้องเจอมาแล้วในรอบรองชนะเลิศที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นเราต้องเต็มที่ และมีสมาธิกับการแข่งขันให้มากที่สุด หากเราผ่านจุดนั้นได้เชื่อว่าความสำเร็จของทีมไม่ไกลเกินเอื้อมแน่นอน”
โดยการแข่งขันฟุตบอลชายซีเกมส์ครั้งที่ 29 “กัวลาลัมเปอร์ 2017” รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง ทีมชาติไทย พบ มาเลเซีย จะแข่งขันวันอังคารที่ 29 ส.ค.60 ที่ สนาม ชาห์ อลัม สเตเดี้ยม เวลา 19.45 น. (ตามเวลาประเทศไทย) ถ่ายทอดสดทางช่อง 3