วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

5 ข้อสรุป แข้งไทยสู้แบบถวายหัว จนชนะใจแฟนบอลชาวไทย


หลังจากที่ทีมชาติไทย บุกไปแพ้ ออสเตรเลีย 1-2 แบบน่าเสมอ ก็มีเรื่องราวสถิติมากมาย ออกมาให้แฟนบอลได้ติดตาม 


โดยเฉพาะกับเหตุผลว่าทำไม ออสเตรเลีย ถึงยิงทีมชาติไทยได้แค่ 2 ลูกทั้งๆ ที่มีโอกาสเข้าทำถึง 45 ครั้ง

เรามาดูทีละปัจจัย ในเกมที่ เมลเบิร์น เรคแทงคูลาร์ จบออกมาแบบทีมชาติไทย เป็นก้างไม่ให้ออสเตรเลีย เข้ารอบแบบอัตโนมัติ

1. ออสเตรเลีย ออกอาการกดดัน
ด้วยการที่การหาผู้เข้ารอบ เมื่อคะแนนเท่ากันเป็นการวัดลูกได้เสีย ซึ่งระหว่าง ออสเตรเลีย กับ ซาอุฯ นั้น มีแต้มเท่ากัน แต่ลูกได้เสีย ทีมเศรษฐีน้ำมันมีมากกว่า 2 ลูก ทำให้ เหมือนกับว่า ออสเตรเลีย ลงสนามมาด้วยการต่อให้ไทยแล้ว 2 ประตู ต้องยิง 3 ประตูเพื่อแซงไปรั้งอันดับ 2 ชั่วคราว จุดนี้เองทำให้เกมรุกของพวกเขา ออกอาการสะเปะสะปะ และพะวงกับการที่ต้องยิงเยอะๆ มากเกินไป

2. ยิงเยอะแต่ไม่แม่น
สถิติที่ออกมา ออสเตรเลีย ครองบอล 72 เปอร์เซ็นต์, ได้ยิง 45 ครั้ง เข้ากรอบ 13 ครั้ง ถือว่า เยอะมากๆ ในหนึ่งเกมของฟุตบอล ถ้าเฉลี่ยเท่ากับว่า ทุกๆ 2 นาที ออสเตรเลียจะได้ยิง 1 ครั้ง ซึ่งในเกมที่เกิดขึ้น มีทั้งชนเสา, ติดเซฟ, ติดบลอค, ยิงออกหลังกันเอง นี่เป็นจุดที่ดูออกเลยว่า ออสเตรเลีย ขาดความแม่นยำจนกระทั่งต้องมาลุ้นเฉือนทีมชาติไทยแบบหืดจับ


3. ฟอร์มของ แนวรับไทย
แน่นอนว่าทีมชาติไทย ลงสนามในเกมนี้ มีทั้งตัวโดนแบน และเจ็บ ผู้เล่นที่มีส่วนกับเกมรับในวันนี้ ทั้ง ธีราธร ในตำแหน่งตัวตัดเกม, วิงแบ็ค 2 ฝั่งอย่าง โด และ พีรพัฒน์ รวมถึง เซนเตอร์ 3 คน เก่ง อดิศร, โย่ง พรรษา และ เหลิม เฉลิมพงษ์ ทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีพอสมควร ทั้งบล็อค, สกัด, เคลีย รวมถึง สินทวีชัย ทหัยรัตนกุล ที่แม้จะชกบอลออกมาไม่ดี แต่ฟอร์มโดยรวม ก็ยังมีเซฟจังหวะสำคัญๆ ได้ จะมีเพียงแค่ประตูที่พลาด เสีย 2 ลูกเท่านั้น ที่ออสเตรเลียยิงเข้า

4. ไทย ใช้โอกาสไม่เปลือง
ทีมชาติไทย ได้ 1 ประตูจาก ปกเกล้า อนันต์ ในจังหวะสวนกลับที่ ออสเตรเลีย มัวแต่พะวงกับเกมรุกมากเกินไป จังหวะ เก็บบอลได้ของ ปีโป้, จังหวะเปิดของ พีรพัฒน์ โน๊ตชัยยา และ จังหวะยิงของ ปกเกล้า มันพอเหมาะพอเจาะไปหมด เรียกได้ว่า ลูกนี้แทบจะปิดโอกาสเข้ารอบแบบอัตโนมัติ

5. ใจนักสู้
สิ่งสำคัญที่สุดของไทย ในเกมนี้ คือหัวใจ ซึ่งทุกอย่างทั้งประสบการณ์ คุณภาพ และ ฝีเท้า เป็นรองแทบทุกอย่าง แต่สิ่งหนึ่งที่พวกเขาไม่เป็นรองคือ สภาพจิตใจ ก่อนเกม นักเตะไทยรู้ดีว่าต้องเล่นเกมรับแบบไหน ต้องมีสมาธิแบบไหน และต้องทำอย่างไร ถึงจะได้ผลการแข่งขันที่ดีกลับออกไป ยิ่งได้แฟนบอล ที่เข้าไปเชียร์กว่า 1,000 คน ยิ่งทำให้ไทยยิ่งเล่นยิ่งเข้าทาง และช่วงเวลาที่ตีเสมอได้ ใจนักสู้ของพวกเขาก็พองโตเข้าไปอีก

และนี่จบลงไปแล้วสำหรับ ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกของไทย อีก 4 ปีมาว่ากันใหม่ว่าจะทำได้ดีอีกหรือเปล่า และบทพิสูจน์บทใหม่ที่จะมีขึ้นก็คือ ใน เอเชี่ยนคัพ 2019 ที่เราสามารถเข้ารอบสุดท้ายไปได้แล้ว ขอให้เชียร์กันต่อไป

Translate

บทความที่ได้รับความนิยม

ผู้ติดตาม