กำแพงเหล็กของ ราเยวัช กุนซือชาวเซอร์เบีย เฮดโค้ชทีมชาติไทย

โดยแนวทางการเล่นที่อดีตกุนซือทีมชาติกาน่า ชุดลุยฟุตบอลโลก 2010 ติดตั้งให้ทัพ “ช้างศึก” คือการเล่น “เกมรับ” ให้เหนียวแน่น และเสริมเขี้ยวเล็บด้วยลูกโต้กลับเร็วที่ทรงพลัง

ด้วยปรัชญาลูกหนังดังกล่าวทำให้ ราเยวัช ต้องหาเสาหลักให้แนวรับ “ช้างศึก” แห่งแดนสยามให้ตรงกับปรัชญาลูกหนังที่ว่านี้

จากนั้นกุนซือชาวเซิร์บผู้มากประสบการณ์บนเวทีลูกหนังโลก สร้างเซอร์ไพรส์แฟนลูกหนังไทย ด้วยการวางใจ 2 ปราการหลังร่างยักษ์ผู้ไร้ประสบการณ์บนเวทีระดับชาติ อย่าง พรรษา เหมวิบูลย์ กองหลังจากบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว กองหลังกัปตันทีม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี

ด้วยรูปร่างที่สูงใหญ่ของทั้งคู่ ทำให้สามารถป้องกันลูกกลางอากาศได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ด้วยเคมีลูกหนังที่ต่างขั่ว สามารถจูนเข้าขากันได้อย่างลงตัว แม้เพิ่งเล่นคู่กันได้ไม่นานก็ตาม ที่สำคัญทั้งคู่มีคาแรคเตอร์ความเป็นผู้นำสูงมาก

เมื่อปีที่ผ่านทั้ง “โย่ง” และ “เหลิม” สามารถพาทีมชาติไทย คว้าแชมป์ฟุตบอลคิงส์คัพ ครั้งที่ 45 และเป็นการคว้าแชมป์ในนามทีมชาติไทยครั้งแรกของเจ้าตัวด้วย

ซึ่งทำให้ทั้ง 2 คนได้รับเสียงชื่นชมจากแฟนบอลทั่วประเทศ หลังจบทัวร์นาเมนต์

และในการแข่งขันศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 46 ทั้งคู่ต้องเจอบททดสอบสำคัญ ในการป้องกันหลังบ้านทัพ “ช้างศึก” ไม่ให้ข้าศึกโจมตี

ซึ่งคู่แข่งแต่ละชาติที่เข้าร่วมโม่แข้งครั้งนี้ล้วนเป็นยอดทีมของแต่ละทวีปทั้ง เอเชีย, ยุโรป และ แอฟริกา อาทิ ยูเออี, สโลวาเกีย และกาบอง

โดยเฉพาะเกมแรกวันที่ 22 มีนาคม ทีมไทย ต้องดวลแข้งกับทีมชาติกาบอง “เสือดำ” แห่งแอฟริกา ที่แม้จะไม่มี ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง กองหน้าเจ้าของสถิติค่าตัวแพงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ “ปืนใหญ่” อาร์เซน่อล ทีมดังแห่งศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ แต่นักเตะทุกคนในทีมล้วนสุดแสนอันตราย

มาดูกันว่ากำแพงเหล็กคู่นี้จะเหนียวแน่นแค่ไหน?จะหยุดแข้งระดับโลกอย่าง กาบอง ได้หรือไม่?

ขอเชิญชวนแฟนบอลไทยมาร่วมให้กำลังใจ ทั้ง “โย่ง” พรรษา เหมวิบูลย์ และ “เหลิม” เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว

และช่วยให้กำลังใจทีม “ช้างศึก” คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 46 ให้ได้

เพราะเสียงเชียร์ของพวกคุณ คือลมหายใจของขุนศึกนักรบทีมชาติไทย