วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2560

"มาดามเดียร์" เล็งซื้อสโมสรลีกยุโรปเพื่อบริหาร เน้นปั้นแข้งเยาวชนป้อนทีมชาติ


"มาดามเดียร์" วทันยา วงษ์โอภาสี อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลชาย ทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เพิ่งคว้าเหรียญทองซีเกมส์ ครั้งที่ 29 ที่ประเทศมาเลเซีย เปิดใจผ่านผู้จัดการรายวัน 360 หลังแยกทางกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยอมรับเวลานี้ตนยังไม่สนใจที่จะทำทีมฟุตบอลในประเทศไทย แต่เล็งซื้อทีมลีกยุโรป เปิดโอกาสนักเตะไทยค้าแข้งต่างแดนมากขึ้น เพื่อเป้าหมายบอลไทยไปบอลโลก 

"จากประสบการณ์ในการทำงานกับนักฟุตบอลทีมชาติ ทำให้รู้ว่าทีมแนวหน้าระดับทวีปเอเชียอย่าง ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ เขามีนักเตะไปค้าแข้งต่างประเทศกันเยอะมาก มันเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศเขาได้พัฒนาได้รวดเร็ว อันนี้มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้นักเตะไทยก้าวขึ้นไปอยู่แนวหน้าระดับเอเชียได้ และที่สำคัญมันเป็นสิ่งที่ทำให้คนไทยอาจได้เห็นฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลกได้ ซึ่งจริงๆที่มองเอาไว้คือทีมสโมสรในยุโรปที่คิดว่าขนาดทีมไม่ได้ใหญ่จนเกินไป และไม่มีข้อจำกัดในส่วนผู้เล่นต่างชาติ เพื่อเพิ่มโอกาสให้คนไทยมากยิ่งขึ้น" มาดามเดียร์ กล่าวเริ่มกับผู้จัดการรายวัน 360 

"ไอเดียส่วนหนึ่งก็คงมาจาก ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่เขาได้รับโอกาสไปค้าแข้งในต่างประเทศ และทำผลงานได้ยอดเยี่ยม ถือเป็นตัวหลักของทีมที่ญี่ปุ่น ได้โอกาสฝึกฝนฝีเท้าตลอด ศักยภาพของเขาค่อนข้างดีมากๆ มีพัฒนาการที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน ถือเป็นโมเดลสำคัญที่ทำให้นักฟุตบอลไทยคนอื่นๆเอาเป็นแบบอย่างที่ดีมากๆ"

"ถ้าถามถึงสโมสรในไทย ยังไม่อยากคิดไปถึงการลงทุนทำทีม เพราะเราก็ยังมีงานอื่นต้องโฟกัส ที่สำคัญลีกในไทยแข่งขันค่อนข้างถี่ในแต่ละสัปดาห์ การทำทีมในไทยอาจจะต้องเข้าไปคลุกคลีอยู่กับทีมบ่อยๆ ซึ่งงานของเราเองก็เยอะพอสมควร อาจจะไม่มีเวลาว่างถึงขนาดนั้น แล้วอีกอย่างการทำทีมฟุตบอลในไทยความกดดันค่อนข้างสูง ตอนนี้เราเองก็ยังไม่อยากพาตัวเองให้ไปสู่จุดที่เคร่งเครียด ตอนนี้เราก็ตามเชียร์น้องๆที่เราเคยได้ร่วมงานอยู่ตลอดในทุกๆสโมสร ถ้ามีโอกาสได้ดูหรือติดตาม เราก็จะแอบเชียร์น้องๆเป็นประจำ ก็อยากให้น้องๆได้โอกาสลงสนามเยอะๆ"

นอกจากนี้ อดีตผู้จัดการทีมสาวสวยทีม "ช้างศึก" รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี แสดงความเห็นถึงการปรับเปลี่ยนโครงสร้างของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ที่มีการยกเลิกตำแหน่งผู้จัดการทีมของแต่ละชุดออกไป ว่า ถือเป็นสิ่งที่ดีที่สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ มีการปรับเปลี่ยนดังกล่าว เพราะมันแสดงถึงความเป็นมืออาชีพมากขึ้น เพื่อให้ก้าวทันระดับเอเชีย หรือระดับโลกต่อไป

"จริงๆก็เห็นด้วยกับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างดังกล่าว แต่ละการแข่งขันบริบทมันก็จะแต่งต่างกันไป อย่างเช่นชุด U-23 ที่เราทำ ด้วยนโยบายที่สมาคมได้วางเอาไว้ คือการไม่มีผู้จัดการทีม คิดว่าสิ่งเหล่านี้สามารถทำต่อเนื่องไปได้ สมาคมฯจะสามารถพัฒนาผู้เล่นให้ต่อยอดไปเรื่อยๆ เหมือนกับทีมชาติอื่นๆ ตำแหน่งผู้จัดการทีมเขาก็คือตัวผู้ฝึกสอนที่มีหน้าที่อย่างชัดเจน"

"หลังจากนี้ในอนาคตก็คงขึ้นอยู่กับบริบทของแต่ละกิจกรรม อย่างซีเกมส์ หรือเอเชียนเกมส์ อาจจะยังต้องมีระบบผู้จัดการ เพราะเราไม่ได้ไปแข่งขันในฐานะสมาคมฟุตบอลฯ แต่เราไปแข่งขันในฐานะหนึ่งในตัวแทนคณะกรรมการโอลิมปิก เพราะฉะนั้นการที่จะมีหรือไม่มี หรือเข้ามาเกี่ยวข้องในตำแหน่งผู้จัดการก็ยังมีโอกาสเกิดขึ้นได้ ก็ต้องรอดูอนาคตกันต่อไป" วทันยา กล่าวทิ้งท้าย

Translate

บทความที่ได้รับความนิยม

ผู้ติดตาม