เช็คความพร้อม ไทยลีก 2017 นัดที่ 25 ประจำวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2560
ส่องความพร้อมศึกไทยลีก 2017 นัดที่ 25 ประจำวันเสาร์ที่ 5 สิงหาคม 2560 แบงค็อกคึกลุ้นเชือดชลบุรี บางกอกกล๊าสดวลเดือดการท่าเรือ เชียงรายจัดหนักต้อนรับอุบล สุพรรณไม่ง่ายท้าชนพัทยา ราชบุรีห้ามประมาทฟาดแข้งโคราช
เชียงราย ยูไนเต็ด(4) – อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด(8)
เวลา 17.45น. ณ สนามยูไนเต็ด สเตเดี้ยม
(ทรูโฟว์ยู)
ผลงานเลกแรก : อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด 1-2 เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด
“กว่างโซ้งมหาภัย” นัดล่าสุดเล่นเอฟเอคัพ บุกชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 ยังมีลุ้นบอลถ้วยครบ 2 รายการ ส่วนในลีกยกพลไปเชือด การท่าเรือ เอฟซี 2-1 เก็บสามคะแนนมาต่อเนื่องพร้อมยึดหัวตารางได้อย่างแข็งแกร่ง สภาพทีมไร้เงา ประทุม ชูทอง ติดโทษแบน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ บาดเจ็บพักยาว ชัยวัฒน์ บุราณ ยังมีอาการเจ็บรบกวน ขณะที่แกนหลักอยู่กันครบอาทิ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปิยพล ผานิชกุล และ เฟลิเป้ อเซเวโด
อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด
“เทพอินทรี” ไม่มีคิวลงเตะถ้วยเอฟเอคัพเมื่อกลางสัปดาห์ ดังนั้นจึงไม่ต้องมากังวลเรื่องพละกำลังว่าจะฟิตเต็มร้อยหรือไม่ นัดล่าสุดในลีกบุกพ่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-4 ฟอร์มช่วงหลังดูแผ่วลงชัดเจน 7 เกม เก็บได้เพียง 6 แต้มเท่านั้น สภาพทีมหมดสิทธิ์ใช้บริการ สุรีย์ สุขะ ที่ติดโทษแบน โดยเกมนี้เตรียมจัดผู้เล่นชุดที่ดีสุดมีตัวชูโรงอย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, เนบิญ่า บายรัม, จอนาตา แวร์ซูร่า และ คาร์ลอส อเล็กซานเดร เดอ ซูซ่า
สุพรรณบุรี เอฟซี(11) – พัทยา ยูไนเต็ด(9)
เวลา 18.00น. ณ สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
(ทรูสปอร์ต 6)
ผลงานเลกแรก : พัทยา ยูไนเต็ด 1-3 สุพรรณบุรี เอฟซี
สุพรรณบุรี เอฟซี
พัทยา ยูไนเต็ด
ผลงานเลกแรก : การท่าเรือ เอฟซี 0-3 บางกอกกล๊าส เอฟซี
บางกอกกล๊าส เอฟซี
การท่าเรือ เอฟซี
“สิงห์เจ้าท่า” นัดล่าสุดเล่นเอฟเอคัพเฝ้ารังทุบ อยุธยา ยูไนเต็ด 2-0 อยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์บนถ้วยครบทุกรายการ ส่วนในลีกแพ้คาบ้านต่อ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-2 ทำสถิติไม่ค่อยน่าจดจำพ่ายมา 3 เกมติดต่อกัน สภาพทีมจะขาด รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย แต่จะได้ ประวีณวัช บุญยงค์ พ้นโทษแบนกลับมา ด้านผู้เล่นขาประจำ ดาบิด โรเชล่า, ศิวกร จักขุประสาท, และ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ พร้อมลงสนามตามเดิม
แบงค็อก ยูไนเต็ด(3) – ชลบุรี เอฟซี(6)
เวลา 19.00น. ณ สนามทรู สเตเดี้ยม
(ทรูสปอร์ต HD 2)
ผลงานเลกแรก : ชลบุรี เอฟซี 1-5 แบงค็อก ยูไนเต็ด
แบงค็อก ยูไนเต็ด
“แข้งเทพ” นัดล่าสุดบู๊เอฟเอฟคัพไล่ถล่ม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-0 ทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนในลีกยำใหญ่ โปลิศ เทโร เอฟซี 5-2 ทำให้ทุบสถิติใหม่ของสโมสรต่อไปด้วยการชนะติดต่อกันยาวนานที่สุดรวมทุกรายการ 10 เกม สภาพทีมไม่มี โจโจ้ ที่ลงเล่นได้เฉพาะบอลถ้วย มาริโอ ยูรอฟสกี้ พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว โดยเกมนี้เตรียมยึดผู้เล่นหลักเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็น โยฮัน ทาวาเรส, สรรวัชญ์ เดชมิตร และ ดราแกน บอสโควิช
ชลบุรี เอฟซี
“ฉลามชล” ไม่มีโปรแกรมเล่นถ้วยเอฟเอคัพกลางสัปดาห์ นักเตะจึงได้พักฟื้นร่ายกายกันแบบเต็มที่ นัดล่าสุดเกมลีกเปิดบ้านเสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-1 สะดุดไร้ชัยมา 2 เกมติดต่อกัน สภาพทีมจะขาด อาโก้ คุนญ่า ที่ติดโทษแบน ตัวเจ็บและไม่ฟิตเพียบไล่ตั้งแต่ ณรงค์ จันทร์เสวก, ภานุพงศ์ พลซา, สุทินันท์ พุกหอม, นพนนท์ คชพลายุกต์ และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ส่วนแข้งรายอื่นพร้อมลงตามปกติทั้ง ชนินทร์ แซ่เอียะ, นูรูล ศรียานเก็ม และ เรนัน มาเกวซ
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี(7) – นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี(14)
เวลา 20.00น. ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม
(ทรูสปอร์ต 2)
ผลงานเลกแรก : นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-1 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
“ราชันมังกร” ไม่มีคิวลงเตะบอลถ้วยเอฟเอคัพกลางสัปดาห์ ทำให้สภาพความฟิตอาจจะได้เปรียบคู่แข่งอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนนัดล่าสุดในเกมลีกบุกพ่าย พัทยา ยูไนเต็ด 0-3 หลุดฟอร์มเก่งกลับมาแพ้อีกครั้งในรอบ 5 เกม สภาพทีมหมดสิทธิ์ใช้งาน เอกลักษณ์ ทองกริต ที่บาดเจ็บพักยาว ที่เหลือไม่มีปัญหาเรื่องการจัดทัพ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา, ชุติพนธ์ ทองแท้, โจซัวร์ เอสซอมเบ และ ทาคาฟูมิ อากาโฮชิ พร้อมลงสนามทั้งหมด
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
“สวาทแคท” นัดล่าสุดลุยเอฟเอคัพเล่นเกมเยือนแพ้ แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-3 ตกรอบบอลถ้วยครบทุกรายการหมดแล้ว ทำให้ปรับโฟกัสมาลุ้นทำอันดับบอลลีกได้เต็มที่ ส่วนในลีกเปิดบ้านอัด ศรีสะเกษ เอฟซี 3-0 ทำสถิติชนะรวดมา 2 เกมติด สถานการณ์บนตารางคะแนนลดความกดดันมากขึ้น สภาพทีมไร้เงา ประลอง สาวันดี ยังบาดเจ็บพักยาว นอกนั้นสมบูรณ์ทุกตำแหน่ง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, เปาโล รานเกล และ ชาคริต ระวันประโคน พร้อมยืนเป็นแกนหลักตามปกติ
เชียงราย ยูไนเต็ด(4) – อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด(8)
เวลา 17.45น. ณ สนามยูไนเต็ด สเตเดี้ยม
(ทรูโฟว์ยู)
ผลงานเลกแรก : อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด 1-2 เชียงราย ยูไนเต็ด
เชียงราย ยูไนเต็ด
“กว่างโซ้งมหาภัย” นัดล่าสุดเล่นเอฟเอคัพ บุกชนะ สุโขทัย เอฟซี 1-0 ยังมีลุ้นบอลถ้วยครบ 2 รายการ ส่วนในลีกยกพลไปเชือด การท่าเรือ เอฟซี 2-1 เก็บสามคะแนนมาต่อเนื่องพร้อมยึดหัวตารางได้อย่างแข็งแกร่ง สภาพทีมไร้เงา ประทุม ชูทอง ติดโทษแบน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ บาดเจ็บพักยาว ชัยวัฒน์ บุราณ ยังมีอาการเจ็บรบกวน ขณะที่แกนหลักอยู่กันครบอาทิ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ปิยพล ผานิชกุล และ เฟลิเป้ อเซเวโด
อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด
“เทพอินทรี” ไม่มีคิวลงเตะถ้วยเอฟเอคัพเมื่อกลางสัปดาห์ ดังนั้นจึงไม่ต้องมากังวลเรื่องพละกำลังว่าจะฟิตเต็มร้อยหรือไม่ นัดล่าสุดในลีกบุกพ่าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 0-4 ฟอร์มช่วงหลังดูแผ่วลงชัดเจน 7 เกม เก็บได้เพียง 6 แต้มเท่านั้น สภาพทีมหมดสิทธิ์ใช้บริการ สุรีย์ สุขะ ที่ติดโทษแบน โดยเกมนี้เตรียมจัดผู้เล่นชุดที่ดีสุดมีตัวชูโรงอย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ่, เนบิญ่า บายรัม, จอนาตา แวร์ซูร่า และ คาร์ลอส อเล็กซานเดร เดอ ซูซ่า
สุพรรณบุรี เอฟซี(11) – พัทยา ยูไนเต็ด(9)
เวลา 18.00น. ณ สนามกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี
(ทรูสปอร์ต 6)
ผลงานเลกแรก : พัทยา ยูไนเต็ด 1-3 สุพรรณบุรี เอฟซี
สุพรรณบุรี เอฟซี
“ช้างศึกยุทธหัตถี” นัดล่าสุดบู๊เอฟเอคัพ เยือนถล่ม จันทบุรี เอฟซี 3-0 ทะลุเข้าสู่รอบต่อไปได้สำเร็จ ส่วนในลีกแบ่งแต้ม ชลบุรี เอฟซี 1-1 ฟอร์มโดยรวมยังขาดความคงเส้นคงวา สภาพทีมจะไม่มี กิลแยร์เม เดลลาตอร์เร กับ อนาวิน จูจีน ที่ติดโทษแบน ลาซารัส คาอิมบี้ และ มาร์เซโล่ ซาเวียร์ ยังมีอาการบาดเจ็บ ธนาสิทธิ์ ศิริผลา ต้องรอทดสอบความฟิตในขั้นสุดท้าย ที่เหลือพร้อมลงสนามนำโดย สินทวีชัย หทัยรัตนกุล, อดุล หละโสะ และ ชนานันท์ ป้อมบุบผา
พัทยา ยูไนเต็ด
“โลมาน้ำเงิน” นัดล่าสุดแพ้คาบ้านต่อ พีทีที ระยอง 0-1 กระเด็นตกรอบถ้วยเอฟเอคัพไปอย่างน่าเสียดาย ส่วนในลีกเฝ้ารังถล่ม ราชบุรี มิตรผล เอฟซี 3-0 คว้าชัยเกมลีกมา 3 นัดติด จนแทบไม่ต้องมาห่วงเรื่องตกชั้นแล้ว สภาพทีมไม่มีปัญหาโทษแบน ด้านผู้เล่นเจ็บรอเช็คฟิตเพียบทั้ง สมพร ยศ, ชญาวัต ศรีนาวงษ์, ภูมินทร์ แก้วตา และ ชัยณรงค์ ทาทอง ขณะที่ตัวทีเด็ดอย่าง มงคล ทศไกร, มิลอส สโตจาโนวิค และ ลี วอนยัง ก็ยังอยู่กันครบ
บางกอกกล๊าส เอฟซี(5) – การท่าเรือ เอฟซี(10)
เวลา 19.00น. ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม
(ทรูสปอร์ต HD 3)
บางกอกกล๊าส เอฟซี(5) – การท่าเรือ เอฟซี(10)
เวลา 19.00น. ณ สนามลีโอ สเตเดี้ยม
(ทรูสปอร์ต HD 3)
ผลงานเลกแรก : การท่าเรือ เอฟซี 0-3 บางกอกกล๊าส เอฟซี
บางกอกกล๊าส เอฟซี
“กระต่ายแก้ว” นัดล่าสุดลุยเอฟเอฟคัพเปิดบ้านอัด ราชนาวี 6-1 รักษาความหวังลุ้นมีถ้วยติดมือสักหนึ่งรายการต่อไป ส่วนในลีกยกพลทุบ ไทยฮอนด้า ลาดกระบัง เอฟซี 2-0 เกาะกลุ่มท็อปไฟว์อย่างเหนียวแน่น สภาพทีมยังไม่มี ศิวกร แสงวงศ์ กับ อรรถวิท สุขช่วย ที่ร่างกายไม่สมบูรณ์เต็มร้อย อาเรียล โรดริเกวซ รอเช็คความฟิต แข้งสำคัญรายอื่นไม่เปลี่ยนแปลงนำโดย แมทธิว สมิธ, พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ และ ยาสมานี่ คัมโปส
การท่าเรือ เอฟซี
“สิงห์เจ้าท่า” นัดล่าสุดเล่นเอฟเอคัพเฝ้ารังทุบ อยุธยา ยูไนเต็ด 2-0 อยู่บนเส้นทางลุ้นแชมป์บนถ้วยครบทุกรายการ ส่วนในลีกแพ้คาบ้านต่อ เชียงราย ยูไนเต็ด 1-2 ทำสถิติไม่ค่อยน่าจดจำพ่ายมา 3 เกมติดต่อกัน สภาพทีมจะขาด รัตนัย ส่องแสงจันทร์ ที่กำลังฟื้นฟูร่างกาย แต่จะได้ ประวีณวัช บุญยงค์ พ้นโทษแบนกลับมา ด้านผู้เล่นขาประจำ ดาบิด โรเชล่า, ศิวกร จักขุประสาท, และ ปกรณ์ เปรมภักดิ์ พร้อมลงสนามตามเดิม
แบงค็อก ยูไนเต็ด(3) – ชลบุรี เอฟซี(6)
เวลา 19.00น. ณ สนามทรู สเตเดี้ยม
(ทรูสปอร์ต HD 2)
ผลงานเลกแรก : ชลบุรี เอฟซี 1-5 แบงค็อก ยูไนเต็ด
แบงค็อก ยูไนเต็ด
“แข้งเทพ” นัดล่าสุดบู๊เอฟเอฟคัพไล่ถล่ม นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 3-0 ทะลุเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้าย ส่วนในลีกยำใหญ่ โปลิศ เทโร เอฟซี 5-2 ทำให้ทุบสถิติใหม่ของสโมสรต่อไปด้วยการชนะติดต่อกันยาวนานที่สุดรวมทุกรายการ 10 เกม สภาพทีมไม่มี โจโจ้ ที่ลงเล่นได้เฉพาะบอลถ้วย มาริโอ ยูรอฟสกี้ พ้นโทษแบนกลับมาแล้ว โดยเกมนี้เตรียมยึดผู้เล่นหลักเหมือนเดิมไม่ว่าจะเป็น โยฮัน ทาวาเรส, สรรวัชญ์ เดชมิตร และ ดราแกน บอสโควิช
ชลบุรี เอฟซี
“ฉลามชล” ไม่มีโปรแกรมเล่นถ้วยเอฟเอคัพกลางสัปดาห์ นักเตะจึงได้พักฟื้นร่ายกายกันแบบเต็มที่ นัดล่าสุดเกมลีกเปิดบ้านเสมอ สุพรรณบุรี เอฟซี 1-1 สะดุดไร้ชัยมา 2 เกมติดต่อกัน สภาพทีมจะขาด อาโก้ คุนญ่า ที่ติดโทษแบน ตัวเจ็บและไม่ฟิตเพียบไล่ตั้งแต่ ณรงค์ จันทร์เสวก, ภานุพงศ์ พลซา, สุทินันท์ พุกหอม, นพนนท์ คชพลายุกต์ และ เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ ส่วนแข้งรายอื่นพร้อมลงตามปกติทั้ง ชนินทร์ แซ่เอียะ, นูรูล ศรียานเก็ม และ เรนัน มาเกวซ
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี(7) – นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี(14)
เวลา 20.00น. ณ สนามมิตรผล สเตเดี้ยม
(ทรูสปอร์ต 2)
ผลงานเลกแรก : นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี 1-1 ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
ราชบุรี มิตรผล เอฟซี
“ราชันมังกร” ไม่มีคิวลงเตะบอลถ้วยเอฟเอคัพกลางสัปดาห์ ทำให้สภาพความฟิตอาจจะได้เปรียบคู่แข่งอยู่บ้างเล็กน้อย ส่วนนัดล่าสุดในเกมลีกบุกพ่าย พัทยา ยูไนเต็ด 0-3 หลุดฟอร์มเก่งกลับมาแพ้อีกครั้งในรอบ 5 เกม สภาพทีมหมดสิทธิ์ใช้งาน เอกลักษณ์ ทองกริต ที่บาดเจ็บพักยาว ที่เหลือไม่มีปัญหาเรื่องการจัดทัพ อุกฤษณ์ วงศ์มีมา, ชุติพนธ์ ทองแท้, โจซัวร์ เอสซอมเบ และ ทาคาฟูมิ อากาโฮชิ พร้อมลงสนามทั้งหมด
นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
“สวาทแคท” นัดล่าสุดลุยเอฟเอคัพเล่นเกมเยือนแพ้ แบงค็อก ยูไนเต็ด 0-3 ตกรอบบอลถ้วยครบทุกรายการหมดแล้ว ทำให้ปรับโฟกัสมาลุ้นทำอันดับบอลลีกได้เต็มที่ ส่วนในลีกเปิดบ้านอัด ศรีสะเกษ เอฟซี 3-0 ทำสถิติชนะรวดมา 2 เกมติด สถานการณ์บนตารางคะแนนลดความกดดันมากขึ้น สภาพทีมไร้เงา ประลอง สาวันดี ยังบาดเจ็บพักยาว นอกนั้นสมบูรณ์ทุกตำแหน่ง เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, เปาโล รานเกล และ ชาคริต ระวันประโคน พร้อมยืนเป็นแกนหลักตามปกติ