5 ปัจจัยที่จะทำให้กิเลนผยองสยบอุลซาน ฮุนได
กลับมาอีกครั้งกับศึกฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2017 รอบแบ่งกลุ่ม นัดที่ 4 ของทีมกิเลนผยอง
ซึ่งมีคิวจะเปิดบ้าน รับมืออุลซาน ฮุนได ผู้มาเยือนจากแดนกิมจิ ในวันที่ 12 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นเกมส่งท้ายก่อนที่แฟนบอลเมืองทองฯ จะร่วมฉลองปีใหม่ไทยในวันสงกรานต์นี้ เกมนี้เป็นเกมสำคัญอาจจะเป็นการชี้อนาคตในการลุ้นเข้ารอบต่อไปของแชมป์ไทยลีกก็เป็นได้
ทีมกิเลนผยองถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในลีกและฟุตบอลเอเชีย โดย 3 นัดของศึกเอซีแอล พวกเขายังไม่แพ้ใคร บุกเสมอบริสเบน โรร์ 0-0 ต่อด้วยเปิดสนามศุภชลาศัย เฉือนชนะแชมป์เจลีกอย่างคาชิม่า แอนท์เลอร์ส 2-1 และเกมล่าสุกบุกเจ๊าอุลซาน ฮุนได 0-0 ทำให้ตอนนี้มีอยู่ 5 คะแนน รั้งอยู่อันดับสองของกลุ่มบี
ซึ่งมีคิวจะเปิดบ้าน รับมืออุลซาน ฮุนได ผู้มาเยือนจากแดนกิมจิ ในวันที่ 12 เม.ย.นี้ ซึ่งเป็นเกมส่งท้ายก่อนที่แฟนบอลเมืองทองฯ จะร่วมฉลองปีใหม่ไทยในวันสงกรานต์นี้ เกมนี้เป็นเกมสำคัญอาจจะเป็นการชี้อนาคตในการลุ้นเข้ารอบต่อไปของแชมป์ไทยลีกก็เป็นได้
ทีมกิเลนผยองถือว่าทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งในลีกและฟุตบอลเอเชีย โดย 3 นัดของศึกเอซีแอล พวกเขายังไม่แพ้ใคร บุกเสมอบริสเบน โรร์ 0-0 ต่อด้วยเปิดสนามศุภชลาศัย เฉือนชนะแชมป์เจลีกอย่างคาชิม่า แอนท์เลอร์ส 2-1 และเกมล่าสุกบุกเจ๊าอุลซาน ฮุนได 0-0 ทำให้ตอนนี้มีอยู่ 5 คะแนน รั้งอยู่อันดับสองของกลุ่มบี
ขณะที่คู่แข่งซึ่งพกดีกรีอดีตแชมป์รายการนี้เมื่อปี 2012 นั้นมีอยู่ 4 คะแนน อยู่อันดับที่ 3 ซึ่งการบุกมาแก้มือกับเอสซีจี เมืองทองฯ ครั้งนี้พวกเขาก็หวังถึง 3 แต้มเช่นกันเพื่อที่จะทำคะแนนหนีแชมป์ไทยลีกขึ้นไป และโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอาท์ เช่นเดียวกับกิเลนผยอง ที่ถ้าชนะเกมนี้ ก้จะเพิ่มโอกาสในการลุ้นผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
แน่นอนว่าเรื่องของชื่อชั่น และขุมกำลัง ถ้าเทียบกันจริงๆ แล้ว อุลซาน ฮุนได ก็มีภาษีที่ดีกว่า แต่ถ้าจะวัดกันตัวต่อตัว บวกกับผลงานใน 3 เกมทีผ่านมา อดีตแชมป์ไทยลีกปีล่าสุดก็ไม่ได้เป็นรองเช่นกัน และถ้าจะมองถึงการเก็บชัยชนะในเกมนี้มันก็คงไม่ใช่เรื่องที่ไกลเกินเอื้อมหรือเป็นไปไม่ได้ ซึ่งถ้าดูที่ปัจจัยหลายๆ อย่างแล้ว มันก็มีโอกาสที่เอสซีจี เมืองทองฯ จะเอาชนะยอดทีมจากเกาหลีใต้ได้ในเกมนี้ ปัจจัยที่ว่ามีอยู่ 5 ข้อ
1.ความมั่นใจกลับมาแล้ว
หลังจากที่เอสซีจี เมืองทองฯ สะดุดในเกมลีกในช่วงกลับมาจากทีมชาติ โดยบุกไปพ่ายบุรีรัมย์ 2-0 ทำให้ความมั่นใจของพวกเขาลดลงไปเยอะพอสมควร ไหนจะเสียตำแหน่งจ่าฝูงในลีก และยังเสียสถิติชนะรวด 6 เกมที่ผ่านมาด้วย แต่กระนั้นพวกเขาก็กลับมาคืนฟอร์มเก่งได้ทันเวลาด้วยการบุกไปกระซวกซุปเปอร์ พาวเวอร์ 4-1 ในเกมลีกนัดล่าสุด ซึ่งก็น่าจะเป็นชัยชนะที่ทำให้ขุนพลกิเลนผยองกลับมามีขวัญกำลังใจที่ยอดเยี่ยมอีกครั้ง ก่อนที่จะรับมืออุลซาน ฮุนได ในเกมนี้ นักเตะอย่าง ซิสโก้ ฆิมิเนซ ที่ซัดแฮตทริกได้ก้น่าจะมั่นใจมากขึ้นด้วยในการถล่มประตูคู่แข่ง
2.ผลงานจาก 3 เกมแรก
จากผลงานใน 3 เกมแรกของศึกเอซีแอล ทีมกิเลนผยองมีผลงานที่ดีมาก ซึ่งการลงเล่นในฐานะเจ้าบ้านเกมแรกในรายการนี้แม้จะไปใช้สนามศุภชลาศัย ก็สามารถที่จะเอาชนะคาชิม่า ได้ 2-1 ดังนั้นมันก็มีความเป็นไปได้ที่พวกเขาจะปราบทีมจากเกาหลีใต้ได้อีกทีมในถิ่นเอสซีจี สเตเดี้ยม ครั้งนี้
3.แท็กติกของโค้ชแบน
บุคคลที่อยู่เบื้องหลังผลงานอันยอดเยี่ยมของเอสซีจี เมืองทองฯ ใน 3 แมตช์ที่ผ่านมาก็คงต้องยกให้กับ "โค้ชแบน" ธชตวัน ศรีปาน กุนซือใหญ่ ที่เป็นผู้วางหมากและแผนการเล่นในทุกเกมของกิเลนผยอง ซึ่ง 5 แต้มที่เก็บมาได้แถมยังไม่แพ้ใครในรายการนี้ ก็ทำให้กุนซือฉายา "สุภาพบุรุษลูกหนัง" ได้รับคำชื่นชมเป็นอย่างมาก ซึ่งเกมนี้ก็จะเป็นการวัดกึ๋นของ "โค้ชแบน" อีกครั้ง เชื่อว่ารูปเกมเมืองทองฯ ไม่เป็นรองคู่แข่งแน่นอน
4.สภาพอากาศ
เรื่องของสภาพอากาศก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัย เพราะตอนนี้ที่เกาหลีใต้นั้นอากาศยังคงหนาวเย็นอยู่ การมาเจอสภาพอากาศที่ร้อนจัดชนิดที่คนไทยเองก็แทบจะยังทนไม่ได้ น่าจะส่งผลกระทบต่อความฟิตของนักเตะอุลซานฯ แน่นอน ต่อให้มีพลังโสมและจะฟิตแค่ไหน เชื่อเลยว่าไม่มีทางวิ่งได้ตลอด 90 นาทีแน่นอน ครึ่งหลังต้องมีหมด ปัญหาอยู่ที่ว่าความฟิตของขุนพลกิเลนผยองจะหมดไปด้วยหรือเปล่า แต่อย่างน้อยก็เชื่อว่าเราคุ้นชินสภาพอากาศมากกว่า ก็น่าจะวิ่งได้เยอะกว่าคู่แข่งแน่นอน ขอให้เกมรุกจบคมๆ เกมนี้มองถึงสามแต้มชัวร์
5.เสียงเชียร์จากแฟนบอล
ปัจจัยสุดท้ายก็คงเป็นเรื่องของเสียงเชียร์และกำลังใจจากแฟนบอลอุลต้าเมืองทองฯ ที่เชื่อว่าน่าจะเข้าไปเชียร์ทีมรักกันเต็มความจุของเอสซีจี สเตเดี้ยม แน่นอนในเกมนี้ ซึ่งนักเตะจากทีมอุลซาน ฮุนได เมื่อมาเจอกับเสียงเชียร์แฟนบอลเมืองทองฯ ที่ดังกระหึ่มทั่วทั้งสนามก็น่าจะมีขาสั่นกันบ้าง เพราะในเคลีกเองก็คงไม่ค่อยจะมีคนดูเท่าไหร่ อย่างในเกมแรกที่เล่นในบ้านของอุลซาน ฮุนได แฟนบอลก็โหลงเหลง ซึ่งด้วยเหตุนี้ก็น่าจะเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้เมืองทองฯ มีโอกาส คราวนี้ก็ขึ้นอยู่กับแฟนบอลเมืองทองฯ ว่าจะกดดันทีมเยือนได้มากน้อยแค่ไหน
สำหรับเกมในวันพุธนี้อย่างที่บอกว่าอาจจะเป็นเกมที่ชี้ชะตา หรือเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้ารอบต่อไปของทั้งสองทีม เพราะถ้าใครเป็นฝ่ายชนะก็จะมีโอกาสเพิ่มขึ้นในการเป็น 16 ทีมสุดท้ายในรอบต่อไป ส่วนผู้แพ้ก็จะมีงานหนักเพิ่มขึ้นในสองเกมที่เหลือ แต่สำหรับเอสซีจี เมืองทองฯ แล้วเกมนี้เป็นการลงเล่นในบ้านของตัวเอง ยังไงต้องมีแต้มไว้ก่อน จะหนึ่งแต้มหรือสามแต้มก็แล้วแต่ เพราะถ้าพลาดท่าพ่ายในบ้านของตัวเองสองเกมที่เหลือก็เป้นงานที่หนักแน่นอน
อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเกมในวันพุธที่ 12 เม.ย.นี้ จะต้องเป็นเกมที่สนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และแฟนบอลเอสซีจี เมืองทองฯ จะพลาดไม่ได้เป็นอันขาด รวมทั้งแฟนบอลไทยทั่วไปก็หวังว่าจะรวมใจเชียร์ทีมตัวแทนจากประเทศไทยของเราให้ไปผงาดในเวทีเอเชีย ซึ่งยิ่งเอสซีจี เมืองทองฯ ทำผลงานได้ดีเท่าไหร่ ก็ยิ่งส่งผลดีต่อวงการฟุตบอลไทยเท่านั้น