ปราการคู่แห่งทัพช้างศึก AFF Suzuki Cup 2018
เหลือเวลาอีกเพียง 1 เดือนสำหรับการเตรียมตัวก่อนสู้ศึกป้องกันแชมป์ ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซี่ยน หรือ AFF Suzuki Cup 2018 ซึ่งในฐานะแชมป์เก่าเมื่อปี 2016 และฐานะเจ้าของสถิติแชมป์มากที่สุด 5 สมัย โจทย์ของมิสเตอร์ มิโลวาน ราเยวัช เฮดโค้ชทัพ “ช้างศึก” ผลลัพธ์อื่นใดนอกจากแชมป์คือความล้มเหลว
หากใครได้ติดตามแนวทางของโค้ชชาวเซิร์บจะทราบได้ว่าเกมรับคือจุดแข็งของอดีตกุนซือทีมชาติกาน่า และวันนี้ “ช้างศึกฟรีฟอร์ม” จะขอพูดถึงกำลังสำคัญในแนวรับของทีมชาติไทย เมื่อ ราเยวัช คือผู้ที่ค้นพบคู่เซนเตอร์ที่ลงตัวที่สุดคู่หนึ่งนั่นก็คือ พรรษา เหมวิบูลย์ และ เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว ซึ่ง 2 ปีก่อนหน้านี้แฟนบอลไทยแทบไม่มีใครเคยได้ยินชื่อมาก่อน
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว วัยก็ล่วงเลยเข้าสู่เลขสาม กอปรกับ พรรษา เหมวิบูลย์ ที่ได้รับบาดเจ็บจากการกรำศึกหนักมาตลอดใน โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาลที่ผ่านมา แมตช์อุ่นเครื่องตามปฎิทินฟีฟ่าเดย์รอบเดือนตุลาคมที่กำลังจะมาถึง ราเยวัช จึงตัดสินใจเรียกเซนเตอร์ฮาล์ฟวัยหนุ่มมาลองของหลายคน และหากว่า พรรษา คือเซนเตอร์ฮาล์ฟที่ดีที่สุดของเมืองไทยเวลานี้ แล้วใครกันคือคนที่คู่ควรมายืนข้างเซนเตอร์วัย 28 ปีในรายการ AFF Suzuki Cup 2018 ด้วยระบบกองหลัง 4 คน
เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว อายุ 31 ปี สโมสร นครราชสีมา มาซด้า เอฟซี
เจ้าของส่วนสูง 181 เซนติเมตร คือส่วนสำคัญที่ทำให้ “สวาทแคท” รักษาสถานภาพการอยู่บนลีกสูงสุดมาได้หลายสมัยติดต่อกัน แม้อายุของเจ้าตัวจะแตะเลข 3 แล้วก็ตาม แต่ประสบการณ์และการอ่านทางบอลคือจุดเด่นที่ทำให้ เฉลิมพงษ์ เป็นปราการหลังสัญชาติไทยที่เชื่อฝีเท้าได้มากที่สุด นอกจากนี้กัปตัน “บอล” ยังเป็นคู่เซนเตอร์คนแรกที่ได้จับคู่กับเจ้า “โย่ง” พรรษา เหมวิบูลย์ ในแมตช์เดบิวท์ของทั้งสองคนในการแข่งขันกระชับมิตรที่ออกไปเยือนทีมชาติอุซเบกิสถาน ทำให้ความเข้าขารู้ใจคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ เฉลิมพงษ์ น่าจะเป็นตัวเลือกเบอร์ต้นๆ ของ มิโลวาน ราเยวัช
มานูเอล ทอม เบียห์ อายุ 25 ปี สโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด
กองหลังลูกครึ่งไทย-เยอรมัน เป็นตัวเลือกในแผงหลังที่น่าสนใจอย่างยิ่งของ ราเยวัช เพราะอดีตเยาวชนของ สตุ๊ทการ์ท มีแนวการเล่นที่หาได้ยากจากเซนเตอร์สัญชาติไทย ด้วยความที่โตมาจากระบบลูกหนังอินทรีเหล็ก เน้นการประทะที่เด็ดขาดและร่างกายที่แข็งแกร่งซึ่งแตกต่างจาก พรรษา ชัดเจน แม้ว่าจะมีประสบการณ์ในแมตช์ทีมชาติเพียง 2 นัดในเกมพบกับทีมชาติเคนย่าและทีมชาติจีน แต่คาแรคเตอร์แบบยุโรปของ มานูเอล น่าจะทำให้ ราเยวัช อาจเลือกใช้บริการของเซนเตอร์วัย 25 ปีได้เช่นกัน
สุพรรณ ทองสงค์ อายุ 24 ปี สโมสร สุพรรณบุรี เอฟซี
อาจเป็นรายชื่อที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์แฟนบอล “ช้างศึก” เล็กน้อย แต่หากมองผลงานของเจ้า “เชน” สุพรรณ ทองสงค์ ที่ทำให้ สุพรรณบุรี เอฟซี รอดตกชั้นพร้อมทำสถิติเป็นสโมสรที่เสียประตูน้อยที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจากสโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ประจำฤดูกาลนี้ จึงไม่น่าแปลกใจที่ ราเยวัช จะเรียกหนุ่มสุพรรณวัย 24 กะรัตมาลองหาประสบการณ์ในนามทีมชาติ หลังจากครั้งล่าสุดที่มีชื่อเข้าแคมป์คือเมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 ที่ได้ลงเป็นตัวสำรองไม่เกิน 1 นาทีในเกมไปเยือนทีมชาติเมียนมาร์ ที่สำคัญคงจะน่ายินดีไม่น้อยที่แฟนบอลชาวสุพรรณจะได้เห็นเลือดเนื้อเชื้อไขจากเมืองยุทธหัตถีลงสนามบนแผ่นดินเกิด
มาร์โค บัลลินี่ อายุ 20 ปี สโมสร ชัยนาท ฮอร์นบิล เอฟซี
กองหลังเจ้าของความสูง 2 แมตร คือรายชื่อที่สร้างความตื่นเต้นให้กับแฟนบอลไทยมากที่สุด เมื่อ บัลลินี่ เพิ่งจะอายุเพียง 20 ปีแถมไม่มีชื่อติดในชุดไปลุยเอเชี่ยนส์เกมส์ 2018 ที่อินโดนีเซียด้วยซ้ำ ซึ่งหากเซนเตอร์ลูกครึ่งไทย-อิตาลีมีโอกาสได้ลงสนาม จะเป็นการติดทีมชาติไทยครั้งแรกของเจ้าตัวอีกด้วย
ต้องยอมรับว่า บัลลินี่ ใช้เวลาปรับตัวกับฟุตบอลเมืองไทยพอสมควร แต่ด้วยเพียงเวลาไม่นานหนุ่มจากเมืองโบโลญญ่าก็กลายเป็นกองหลังตัวหลักของ “นกใหญ่พิฆาต” ชัยนาท ฮอร์นบิล โดยลงสนามในเกมลีกไป 15 นัดทำได้ 1 ประตู อย่างไรก็ตามจุดออ่อนหลักๆ ของ บัลลินี่ ที่ต้องปรับอย่างยิ่งคือความคล่องตัว แต่หากนับเรื่องการอ่านเกมและความแข็งแกร่งต้องยอมรับว่าอดีตเยาวชนของทีมเชเซน่าไม่เป็นรองใครใน 4 ตัวเลือกกองหลังในแมตช์อุ่นเครื่องรอบนี้แน่นอน
