วันพฤหัสบดีที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2561

เปิดใจ “ศุภชัย” หลังมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่



ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าตัวใหม่ของ ทีมชาติไทยชุดใหญ่ ยอมรับว่าการได้ติดธงช้างศึกชุดใหญ่ ทำให้เขารู้สึกคุ้มค่าจากการที่ต้องห่างจากครอบครัว และต้องนั่งรถไฟจากปัตตานี มาแสวงโชคในกรุงเทพในเส้นทางการค้าแข้งฟุตบอล

โดยดาวยิงวัย 20 ปี มีชื่อถูกเรียกติดทีมชาติในเกมอุ่นเครื่อง FIFA International ‘A’ Match ในช่วงเดือนตุลาคม ทั้งสองนัดที่จะไปเยือน ฮ่องกง และพบกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ศุภชัย ใจเด็ด กล่าวว่า

“ดีใจครับ ก็หวังว่าจะได้รับโอกาสและจะพยายามทำมันออกมาให้ดีที่สุด”

“ผมตื่นเต้นมาก เพราะนี่เป็นครั้งแรก แน่นอนว่าการมีชื่อติดทีมชาติ จะทำให้ผมมั่นใจขึ้น และจะทำให้ดีที่สุด ต้องขอบคุณบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ให้โอกาส ให้ผมได้ลงเล่น และมีผลงานในสนาม และโชว์ศักยภาพตัวเองออกมา ขอบคุณ โค้ช โบซิดาร์ บันโดวิช พ่อ เนวิน ชิดชอบ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้มีวันนี้”

“อย่างแรกที่พ่อเน (เนวิน ชิดชอบ) พูดกับผมเสมอ คือ เขาอยากให้ผมอดทน พยายามศึกษาระบบการเล่นของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีวินัยต่อตัวเอง ซึ่งเขาพูดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว จนถึงตอนนี้เขาก็ยังพูดอยู่ เขาก็เป็นแรงผลักดัน ให้กระตุ้นตัวเองตลอดเวลา ก็ต้องขอบคุณ ที่สอนให้ผมอดทน ตั้งใจ ไม่กลัวและสู้กับปัญหาทุกเรื่อง”

“การเข้าไปในทีมชาติครั้งนี้ ผมก็จะพยายามใช้โอกาสให้ดีที่สุด โชว์ศักยภาพของตัวเองให้โค้ชเห็น พยายามปรับตัวกับรุ่นพี่ ทำความรู้จักให้ได้มากที่สุด และเก็บประสบการณ์จากชุดใหญ่ให้ได้มากที่สุด”

“ตำแหน่งของผม ผมเล่นได้ทุกตำแหน่ง เพราะผมพร้อมเสมอ ทุกอย่างขึ้นอยู่ที่โค้ช จะจัดให้ผมลงตรงไหน ผมก็มีหน้าที่เล่น ทุกตำแหน่งผมก็จะทำให้ดีที่สุด และผมก็จะตั้งใจเก็บเกี่ยวประสบการณ์ศึกษาจาก มิโลวาน ราเยวัชให้ได้มากที่สุด เพื่อนำมาพัฒนาตัวเองต่อไป”

“ผมคิดว่าระบบของบันโดวิชกับ ราเยวัช น่าจะไม่แตกต่างกันมาก ซึ่งสิ่งสำคัญเลยคือ เราต้องมีก็คือวินัยในเกมรับและเกมรุก”

“สำหรับตัวผม มันก็คุ้มค่านะกับการที่นั่งรถไฟมาในกรุงเทพฯ มันคุ้มกับการที่ผมต้องห่างกับครอบครัวกว่าสิบปี มันเป็นอะไรที่พิเศษ มันพูดออกมาได้ไม่หมดจริงๆ ต้องขอบคุณพ่อกับแม่ที่คอยเป็นกำลังใจ คอยสอน ขัดเกลาให้เรา”

“พ่อแม่บอกผมเสมอว่าถ้ามีโอกาสก็คว้าโอกาสตรงนี้ให้ได้ ทุกครั้งที่มีโอกาส ไม่ว่าจะกี่หน้าที่ เราจะต้องเต็มที่เสมอ เพื่อที่ผมจะไม่ได้เสียใจในภายหลัง พ่อก็จะสอนและให้กำลังใจ พ่อเขาก็จะให้กำลังใจและมาดูผมตลอด คิดว่าพ่อแม่น่าจะมาเชียร์ผม”

“สุดท้าย ผมก็อยากให้แฟนบอลติดตามเชียร์ทีมชาติไทยต่อไปเรื่อยๆ และที่สำคัญก็อยากให้เข้ามาเชียร์พวกเรากันเยอะๆ และร่วมแสดงความยินดีกับ พี่ตี๋ สินทวีชัย หทัยรัตนกุลด้วยกันนะครับ”

โดยทีมชาติไทย จะพบกับฮ่องกง ในวันที่ 11 ตุลาคม 2561 เวลา 19.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ก่อนจะกลับมาฟาดแข้งกับ ตรินิแดด แอนด์ โตเบโก ในวันที่ 14 ตุลาคม 2561 เวลา 18.00 น. ณ สนามกีฬากลาง จังหวัดสุพรรณบุรี จำหน่ายบัตรที่ ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ http://bit.ly/Thelastsave โดยทั้ง 2 คู่ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐทีวี

Translate

บทความที่ได้รับความนิยม

ผู้ติดตาม