เช็คความพร้อมและคีย์แมน เกมศึกอีสานดาร์บี้แมตช์ บุรีรัมย์ vs นครราชสีมา
“ปราสาทสายฟ้า” ออกสตาร์ทฤดูกาล 2017 ได้ยอดเยี่ยมเมื่อเก็บชัยได้ 3 นัด และเสมอ 1 ซึ่งเกมล่าสุดน่าจะเพิ่มความมั่นใจได้ไม่น้อย เพราะบุกไปถล่ม ไทยฮอนด้า เอฟซี น้องใหม่แห่งศึกโตโยต้าไทยลีกได้ถึง 5-1 คว้าชัยเป็นนัดที่ 3 ติดต่อกัน เรียกว่าฟอร์มแรงไม่มีตก และเกมกับ นครราชสีมา แน่นอนว่าชื่อชั้น และขุมกำลังได้เปรียบทีมเยือนไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังได้เล่นในบ้านอีกด้วย
ด้าน “สวาทแคท” ต้องเจองานหนักแบบสุดๆ เมื่อต้องบุกไปเจอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แต่ผลงาน4 นัดที่ผ่านมา ถือว่าดูดีทีเดียว เพราะพวกเขายังไม่แพ้ใครเลย แต่ก็ต้องเสมอไปถึง 3 นัดติดต่อกัน โดยล่าสุดเพิ่งเปิดบ้านเสมอ พัทยา ยูไนเต็ด 2-2
ข่าวข้างสนาม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกมนี้ไร้ปัญหาการจัดทัพ ด้าน โซลวี ออตเตเซน ที่คิ้วแตกจากนัดก่อนก็พร้อมลงสนาม แต่ด้วยเกมที่แข่งติดต่อกันทำให้ทำให้ รานโก โปโปวิช กุนซือ “ปราสาทสายฟ้า” ต้องปรับทัพเพื่อรักษาสภาพความฟิตนักเตะพอสมควร ขณะที่ทีเด็ดแนวรุกอย่าง สุภโชค สารชาติ, ดิโอโก หลุยส์ ซานโต และ แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ ก็น่าจะอยู่ครบหน้า
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด : ผู้รักษาประตู : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, พรรษา เหมวิบูล, โซลวี ออตเตเซน, ชิติพัทธ์ แทนกลาง กองกลาง : สุภโชค สารชาติ, นฤพล พุฒิซ้อน,โก ซุลกิ, บดินทร์ ผาลา, จักรพันธ์ แก้วพรม กองหน้า : ดิโอโก หลุยส์ ซานโต, แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ
ส่วน นครราชสีมา เอฟซี ของกุนซือ มิลอส โจซิค เกมนี้จะไม่มี โดมินิค อาดิเยียห์ ที่ติดโทษแบนจากใบแดงเกมล่าสุดกับ พัทยา ทำให้ต้องปรับแผนเล็กน้อย แต่ถึงแม้จะมีโปรแกรมแข่งติดกัน แต่การเจอ บุรีรัมย์ พวกเขาน่าจะจัดทัพใหญ่สู้ศึกแน่นอน โดยแข้งตัวหลักทั้ง วิคเตอร์ อิกโบเนโฟ, กฤษดา เหมวิพัฒน์, นฤพน อารมณ์สวะ และ เคิร์สเต้ เวลโคสกี้ ฯลฯ ก็พร้อมลงสนามในนัดนี้
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด : ผู้รักษาประตู : สรานนท์ อนุอินทร์ กองหลัง : เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, เอกณัฎฐ์ คงเกตุ, วิคเตอร์ อิกโบเนโฟ, ประลอง สาวันดี กองกลาง : กฤษดา เหมวิพัฒน์, นฤพน อารมณ์สวะ, เคิร์สเต้ เวลโคสกี้, ชนัตพล สิกขะมณฑล กองหน้า : อันโตนิโอ พีน่า, ชาคริต ระวันประโคน
คีย์แมน : สุภโชค สารชาติ VS กฤษดา เหมวิพัฒน์
ก่อนหน้านี้มิดฟิลด์วัย 18 ปี ได้แค่ลงเป็นตัวสำรอง ราชนาวี และ พัทยา ยูไนเต็ด แต่ก็สามารถทำผลงานได้น่าประทับ โดยยิงใส่ พัทยา ยูไนเต็ด 1 ประตูช่วยให้ทีมเปิดบ้านเอาชนะไป 2-0
ขณะที่นัดล่าสุดเขาได้รับโอกาสออกสตาร์ทตัวจริงเป็นเกมแรกของฤดูกาลที่เจอ ไทยฮอนด้าเอฟซี ก่อนโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมด้วยการซัดแฮตทริคพาทีมบุกถล่มน้องใหม่แบบท่วมท้น 5-1 และถือเป็นผู้เล่นอายุน้อยสุดในประวัติศาสตร์ที่ยิงแฮตทริคได้บนโตโยต้า ไทยลีก ในวัยเพียงแค่ 18 ปี 9 เดือน 17 วัน เท่านั้น เรียกได้ว่าฟอร์มกำลังดีวันดีคืน ซึ่งเกมกับ “สวาทแคท” น่าจะเป็นอีกครั้งที่เขาจะได้รับโอกาสลงเล่นเป็น 11 คนแรก
